วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556




ผลงานของสุนทรภู่  แก่นของเรื่องคือ  รัก  โลภ  โกรธ  หลง
                                                                                                        ก.กิตติ

เรื่องพระอภัยมณี  คือ   ความรัก
เรื่องพระอภัยมณี  คือ  ความรัก เพราะ นิทานคำกลอนเรื่อง พระอภัยมณี มีคติสอนใจแทรกอยู่ตลอดเรื่อง  ซึ่งล้วนมีที่มาจากประสบการณ์ของสุนทรภู่เป็นส่วนใหญ่  พระอภัยมณีตอน พระอภัยหนีนางผีเสื้อ สะท้อนให้เห็นถึงอานุภาพของความรักที่อาจทำลายหรือสร้างสรรค์ก็ได้ เช่นรักของนางยักษ์เป็นรักที่เกิดจากความหลง เป็นความรักที่ต้องการการครอบครองเป็นเจ้าของ มิใช่เป็นรักที่เสียสละ  และแสดงให้เห็นว่า บางครั้งเมื่อรักไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ ความรักอาจแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นได้  รักมากก็แค้นมากดังเช่นนางยักษ์  เป็นต้น 
ส่วนตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่สร้างสรรค์ก็มี
ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความรัก  เช่นพระอภัยมณีเกี้ยวนางละเวง (จากตอนที่ 36)
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร              ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้เกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร                                      ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ                          พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา                                   เชยผกาโกสุมประทุมทอง
แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงส์                            จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง
ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง                   เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป

เรื่องกาพย์พระไชยสุริยา  คือ  ความโลภ
เรื่องกาพย์พระไชยสุริยา คือ ความโลภ  เพราะพระไชยสุริยาเป็นกษัตริย์ครองเมืองสาวัตถีมีมเหสีชื่อสุมาลี บ้านเมืองอุดมสมบูรณ์ และเป็นสุขมาช้านานจนกระทั่งเมื่อข้าราชบริพารและผู้มีอำนาจพากันลุ่มหลงในอบายมุข และเที่ยวข่มเหงราษฎรจนเดือดร้อนไปทั่ว ในที่สุดน้ำป่าก็ไหลบ่าท่วมเมืองจนผู้คนล้มตายผู้ที่มีชีวิตรอดก็หนีออกจากเมืองไป ทิ้งสาวัตถีกลายเป็นเมืองร้าง

 พระไชยสุริยาพามเหสีและข้าราชบริพารหนีลงเรือสำเภาออกจากเมืองแต่ถูกพายุใหญ่ พัดเรือแตก พระไชยสุริยากับนางสุมาลีว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งแล้วรอนแรมไปในป่า พระดาบส รูปหนึ่งเข้าฌานเห็นพระไชยสุริยากับนางสุมาลีต้องทนทุกข์ทรมานก็เวทนาเพราะเห็นว่าพระไชยสุริยาทรงเป็นกษัตริย์ที่ดี แต่ประสบเคราะห์กรรมเพราะหลงเชื่อเสนา อำมาตย์   จึงเทศนาโปรดจนทั้งสองศรัทธาและบำเพ็ญธรรมจนได้ไปเกิดบนสวรรค์

เรื่องอภัยนุราช คือ ความโกรธ
เรื่องพระอภัยนุราช คือ ความโกรธ  เพราะ พระเจ้าอภัยนุราช  กษัตริย์เมืองรมเยศ  มีพระมเหสีพระนามว่า  ทิพมาลี  และพระโอรสพระนามว่า  พระอนันต์  พระธิดาพระนามว่า  วรรณนา
พระเจ้าอภัยนุราชไม่ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม  วันหนึ่งเมื่อเสด็จประพาสป่าได้เผาศาลเทพารักษ์   เทพารักษ์พิโรธ  จึงเข้าสิงนางศรีสาหงหญิงอัปลักษณ์  แล้วทำอุบายให้พระอภัยนุราชหลงใหล
พระเจ้าอภัยนุราชตกอยู่ในความลุ่มหลงอย่างรุนแรง  ถึงขนาดควักลูกตารมเหสีตามความประสงค์ของนางศรีหงสา  ไม่รู้จักถูกผิด  ผลสุดท้ายพระเจ้าอภัยนุราชได้ครองราชย์สมบัติกับนางศรีหงสา
ตัวอย่างบทกลอนจากเรื่อง พระอภัยนุราช ที่แสดงให้เห็นถึงความโกรธแค้นของพระมเหสีต่อนางศรีสาหง ที่อวดดีมานั่งแทนที่ตำแหน่งพระมเหสีเอกเทียมพระอภัยนุราช
                                ได้ฟัง                                     แค้นคั่งดังว่าเลือดตาไหล
เหลือที่จะสะกดอดใจ                                         มันฮึกฮักซักไซ้กลับไล่เลียง
จึงชี้หน้าว่าแน่อีแก่แรด                                      วาสนายาแฝดผูกแผดเสียง
เห็นทรงศักดิ์รักใคร่ใกล้เคียง                            มาทุ่มเถียงลามเลียมเทียมทัด
กูเป็นพระมเหสีเอก                                            ร่วมที่ภิเษกเอกฉัตร
มึงชาติข้ามานั่งบัลลังก์รัตน์                              เท้าแขนแอ่นหยัดดัดทรง
เชื่อดีผีสิงอีกิ้งก่า                                                  พูดจาปั้นเจ๋อเห็นเธอหลง
ขึ้นนั่งแท่นแม้นดื้อถือทะนง                            จะถีบส่งลงให้สาใจมึง



ตัวอย่างบทกลอน ที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำของนางศรีสาหงหลังจากที่พระมเหสีได้ต่อว่าและทำร้ายนาง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากความโกรธนั่นเอง
บัดนั้น                                  พวกโขลนจ่าว้ารุนหน้าหลัง
ฉุดคร่าพานางไปกลางวัง                                  พระลูกทั้งสองวิ่งเข้าชิงไว้
พวกท้าวนางต่างเหนี่ยวหน่อกษัตริย์              กอดกระหวัดไว้สิ้นดิ้นไม่ไหว
               ต่างผูกมัดรัดองค์อรไท                                       ยุดไว้ให้ตึงตรึงตรา
                แล้วแขวะควักจักขุเลือดพุพลุ่ง                          นางสะดุ้งร้องกรีดหวีดผวา
                เอาพานทองรองแก้วแววตา                              นางพญาเสือกซบสลบลง ฯ

เรื่องลักษณวงศ์  คือ  ความหลง
เรื่องลักษณวงศ์  คือ  ความหลง  เพราะ  เนื้อเรื่องกล่าวถึง ท้าวพรหมทัต มีมเหสี ชื่อ สุวรรณอำภา และมีพระราชโอรส ชื่อ ลักษณวงศ์ ทรงพามเหสีพร้อมด้วยพระราชโอรสเสด็จประพาสป่า ได้พบนางยักษ์แปลงเป็นสาวสวยทำเล่ห์กลจนท้าวพรหมทัตลุ่มหลง ต่อมาจึงสั่ง ประหาร มเหสี และพระโอรส แต่เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยไป นางสุวรรณอำภาถูกพระยายักษ์พาตัวไป ฤๅษีนำลักษณวงศ์ไปเลี้ยงคู่กับนางทิพย์เกสร เมื่อโตขึ้นเรียนวิชาจนสำเร็จและได้นางทิพย์เกสรเป็นชายา ได้ฝากนางไว้กับฤๅษี ออกตามหามารดาจนพบและ กู้บ้านเมืองได้ และได้นางยี่สุ่น เป็นชายา นางทิพย์เกสรปลอมเป็นพราหมณ์ติดตามมาพบพระลักษณวงศ์ ด้วยความน้อยใจ จึงไม่แสดงตนให้พระลักษณวงศ์รู้ นางยี่สุ่นริษยาที่สามี ใส่ใจพราหมณ์มากจึงวางอุบาย กำจัดพราหมณ์เกสร ในที่สุดพราหมณ์ถูกประหาร ร่างของนางจึงกายเป็นหญิง ลักษณวงศ์จึงเสียใจมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น